วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2555

Part 2/4 - ขับรถเที่ยวนิวซีแลนด์ (เกาะใต้) ไม่ยากอย่างที่คิด

สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้มาต่อภาค 2 ค่ะ เมื่อวานเราลงเอยกันไปที่ Mt.Cook ไปแล้ว ก่อนออกเดินทางสูดอากาศบริสุทธิ์อีกครั้ง เมืองต่อไปจากนี้แอมจะพาทุกท่านไปดูเพนกวินน้อย (Blue Penguin) ที่เมือง OAMARU กันค่ะ

ขอขอบคุณภาพแผนที่จาก Google ค่ะ
OAMARU โออามารุ เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมในสมัยศตวรรษที่ 19 ที่มีความเป็นยุโรปดั้งเดิม อารมณ์ประมาณ เสาโรมัน ตึกไสตล์วิคทอเรีย ขอเล่าถึงประวัติดั้งเดิมนิดนึง เท่าที่แอมทราบ OAMARU เป็นเมืองที่สองที่มีการเจริญเติบโตหรือตั้งหลักปักฐาน รองจาก DUNEDIN แต่เมื่อเวลาผ่านเลยไป CHC Queenstown มีการตั้งถิ่นฐาน ผู้คนเลยอพยพไปอยู่เมืองใหม่ ดังนั้น OAMARU จึงเหลือร่องรอยสถาปัตยกรรมไว้ให้ได้ท่องเที่ยว

ถนนในเมือง OAMARU ค่ะ
โดยส่วนตัวแอมชอบ OAMARU นะ รอบแรกเดินทางมากับเพื่อนสาว รอบสองเลยเดินทางไปถ่ายรูป Pre-Wedding ที่นี่ค่ะ อ่ะๆ เอารูปบรรยากาศมาลงค่ะ

ป้ายหน้าสถานีรถไฟค่ะ
National Bank แบงค์นี้ไปเมือไหนก็จะมีลักษณะเปลี่ยนไปตามเมือง
ป้ายบอกทางแนวๆ
ส่วนป้ายนี้ มีรอบเมืองเลยค่ะ
และก็นี่ พระเอกตัวน้อยของเราไม่ต้องไปเสียสตางค์ดู
ขอแนะนำกิจกรรมที่นี่ค่ะ โดยส่วนมากก็จะเดินดูสถาปัตยกรรมโบราณ ชมเมืองเก่า ไปหาดทราย ท่าน้ำ นั่งเล่นชิวๆ ดูวิวที่สถานีรถไฟ รับประทานอาหารเย็น จิบเบียร์สด SPEIGHT ที่ IRISH BAR (ทำไมต้อง SPEIGHT-เหตุผลก็คือ เป็นนิวซีแลนด์เบียร์ยังไงคะ) หลังจากนั้นกรึ่มๆ ซัก 4 ทุ่ม ไปท่าเรือเลยค่ะ ปักหลัก พร้อมกล้องคอมแพ็ค 1 อัน จับภาพเจ้าตัวน้อย จะเดินมาให้เชยชมกันถึงที่ค่ะ

**PLEASE NOTE** การถ่ายรูปนกเพนกวินนั้น ขอความกรุณาอย่าเปิดแฟลช เพราะว่าจะทำให้ตาน้องหนูตัวน้อยมีปัญหา อันนี้แอมทราบมาจากคนที่โน่น เค้าบอกมาค่ะ

ในเรื่องของที่ Hostel ที่นี่จะตกแต่งสไตล์ วิคทอเรีย เก๋ไก๋ ทริปนี้แอมไปนอนที่ The Empire ค่ะ เตียงสไตล์วิคทอเรีย เป็นห้องขนาด 2 คนนอน (ย้ำเข้าไปนอนนะคะ ถ้าเดินปั๊บ ชนกันทันทีค่ะ ^__^)

ผู้จัดการ Hostel และเจ้าของ ตัวที่อยู่ในมืออ่ะคะ

ห้องนั่งเล่น

-----------------------------------------------------

เมืองต่อไป เราจะเดินทางกันไปต่อที่ Dunedin  และ Otago Peninsula


ขอขอบคุณ Google Map สำหรับแผนที่ในการเขียนบล็อกและการเดินทาง
ภาพมุมสูงของ Dunedin ที่เป็นรูปแปดเหลี่ยม หรือที่เราเรียกว่า Octagon
Credit จาก http://www.newzealandbustravel.com/dunedinbusservices.html
DUNEDIN and Otago Peninsula, ปัจจุบัน Dunedin นับว่าเป็นเมืองใหญ่อันดับ 1 ของเกาะใต้ หลังจากที่ CHC แผ่นดินไหวไป เมื่อกุมภาพันธ์ 2011  Otago เลยเป็นอีก 1 เมืองที่น่าท่องเที่ยว ถึงแม้ Dunedin and Otago Peninsula จะไม่ได้มีสถาปัตยกรรมแบบ LONDON หรือ CAMBRIDGE แต่ Dunedin มีสถาปัตยกรรมแบบ SCOTTISH ให้ได้ชมกัน

Sir Robert Burns ผู้ใจดีให้นกมาอึ๊บนหัว ตลอดเวลา

นอกจากนี้ Dunedin ก็มีมหาวิทยาลัยที่เก่าที่สุดในนิวซีแลนด์ตั้งอยู่ และที่นั่นคือ OTAGO UNIVERSITY มีความโด่งดังมากทางด้านการศึกษาโดยเฉพาะ คณะครุศาสตร์ นักศึกษาไทยมีไม่มากเท่าไหร่ หนักไปทางฝรั่งและญี่ปุ่นค่ะ

Otago University + Clock Tower which is the symbol of this place

จะว่าไปแล้ว Dunedin ก็หอนาฬิกาเยอะใช่เหตุ  ลองเลื่อนไปดูตรง Sir Robert ซิคะ มีแระ 1 ที่ มหาลัยอีก 1 แล้วเดี่ยวมีที่สถานีรถไฟอีก 1 หืมๆๆๆ เยอะจริงๆ ค่ะ

สถานีรถไฟตอนใกล้ค่ำ 5 โมงกว่าๆ ฟ้าโปร่งๆ ไม่มีเมฆเลยค่ะ

นอกจากกิจกรรมชมเมืองแบบนี้แล้ว แอมจะขอแนะนำกิจกรรมที่น่าทำไม่แพ้กัน ในเมือง OTAGO นี่แหละค่ะ  กิจกรรมแรก จากภาพจะเห็นท่าน Sir Robert ทางด้านหลัง แต่ในเบื้องหน้าของท่านเต็มไปด้วย Scottish Bar เรียงเป็นตับ Ummm ขาเที่ยวเตรียมตัวให้พร่้อมค่ะ Drink  ละ NZD$7

เป็นภาพที่ท่าน Sir Robert กำลังพินิจว่าจะไป Bar ไหนดีน๊อ
กิจกรรมต่อมา ขาเมาคงยังต้องชื่นชอบ ต่อไป เราจะพาไปเปิดหูเปิดตาที่ โรงงานผลิตเบียร์ยี่ห้อ Speight

เป็นโรงงานทั้ง 2 ฝั่งเลยนะคะ

โรงหมักเบียร์ที่มีการควบคุมอุณหภูมิอย่างดีค่ะ
ทริปนี้ไม่ธรรมดานะคะ ยังได้ชิมอีกด้วย ทุก Flavour ที่ Speight มีไม่อั้น
ยังเรายังเมรีไม่พอที่จะเป็นลำยอง เราไปต่อกันที่ Casino ให้มันรู้ดำแดงกันไปเลยค่ะ

ได้แต่ถ่ายภายนอก เพราะว่าภายในเค้าห้ามถ่ายรูปค่ะ
อ๊ะ ๆ ชมรมชาวพุทธอย่าเพิ่งน้อยใจนะคะ แอมก็มีกิจกรรมที่แนะนำให้ชมรมชาวพุทธเช่นกัน
นี่เลย TOUR CHOCOLATE FACTORY บรรยากาศน่ารัก แถมขนมกลับบ้านเพียบ

ทางเข้าค่ะ

หุ่นยนต์ตัวน้อยๆ ที่ทำ CHOCOLATE แสนอร่อย
แล้วก็นี่ Chocolate สีทองเต็มไปหมดเลย โว้วๆๆๆๆ
จริงๆ แล้วเราจะได้เดินดูบรรยากาศทั้งโรงงานค่ะ แต่ถ้าเอารูปมาลงหมดคงจะยาวเป็นหางว่าวแน่ๆ เลยเอาแค่หอมปากหอมคอก้อพอเนอะ

อีกที่นึงที่ต้องมา ก็คือ Baldwin Street เป็นถนนในแถบที่อยู่อาศัย และมีผู้อาศัยจริงๆ ซะด้วย
ถนนนี้ได้รับ World Record ว่าเป็นถนนชุมชนที่มีความชันมากที่สุดในโลกเลยค่ะ

ภาพมุมบน ยังไม่ค่อยเท่าไหร่ใช่ม๊ะ
เอ่อ คือบ้านอ่ะ ตั้งตรงนะ แต่ถนนเนี่ยะมันเอียง นิวซีแลนด์นี่เค้ามีไรแปลกๆ เยอะ 555

ในเรื่องของที่พักอาศัย ของที่นี่ขอบอกว่าเยอะมากๆ โดยส่วนมากอยยู่ตามตีนเขาแบบนี้แหละ ซึ่งมันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองนี้ค่ะ ราคา Backpacker ก็เริ่มกันที่ $30 ต่อหัวค่ะ

Otago Peninsula เป็นเมืองเล็กๆ ที่ขับอ้อมเวิ้งน้ำจากสถานีรถไฟ Dunedin ไปหน่อย ที่นี่มี นกยักษ์ ที่ชื่อว่า Albatross Colony หาดูได้ยากในแถบเอเชียนะคะ นอกจากนี้ก็ยังมี Sea Lion ที่ไม่กลัวคน เเต่เราต้องกลัวมันและ Yellow Eye Penguin ให้ดูห่างๆ ด้วยค่ะ แต่แอมชอบที่ OAMARU มากกว่าค่ะ แบบว่า Meet and Greet ใกล้ชิด แต่ที่นี่ ดาราเหินห่างค่ะ
ถ่ายจากมุมถนน
นกยักษ์ ALBATROSS

Yellow Eye Penguin */\* Thank you EOS ที่ Zoom ได้มากขนาดนี้
วันนี้แอมขอพอเท่านี้ก่อนก็แล้วกันมาต่อกันใหม่วันพรุ่งนี้ค่ะ

See you Soon - - Ammy Wu


วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2555

Part 1/4 - ขับรถเที่ยวนิวซีแลนด์ (เกาะใต้) ไม่ยากอย่างที่คิด

สวัสดีค่ะชาว Blogger วันนี้แอมขอนำทริปเมื่อ 1 ปีที่แล้วมาเผยแพร่ แชร์ข้อมูลกันนะคะ วันนี้ Ammy's Journey ขอนำเหนอ ทริปการเดินทางไปประเทศนิวซีแลนด์-เกาะใต้ค่ะ

ข้อมูลทั่วไป นิวซีแลนด์ตั้งอยู่ที่ทวีป Ocenia ในมหาสมุทรแปซิฟิก ใครนึกไม่ออกว่าอยู่ตรงไหน ตั้งพิกัดไปตรง Australia ก่อน เดี๋ยวเจอค่ะ นิวซีแลนด์เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่รวมกัน 2 เกาะ มีประชากรที่เป็นกีวี แท้ๆ ประมาณ 4-5 ล้านคนเท่านั้นเองค่ะ

เรื่องเงินทอง สำหรับสกุลเงินนั้น New Zealand มีสกุลเงินเป็นของตัวเอง คือ NZD (New Zealand Dollar) 1 Dollar ก็ประมาณ 25 บาท แตกต่างไม่มาก +/- ประมาณ 2 บาท ค่ะ

VISA สำหรับประเทศนี้ คนไทยหัวดำ หรือไม่ดำยังไงก็ต้องขอวีซ่าค่ะ แต่ Tourist  Visa ขอไม่ยากนะคะ แค่มีสถาบันศึกษา หรือบริษัทออกจดหมายรับรองว่า ยังไงแกก็ต้องกลับมาเรียน / ทำงาน และมีเงินใน STATEMENT ประมาณ 80000 ก็ไปได้แล้วค่ะ (NZ Immigration อยู่ที่ All Season ลุมพินีค่ะ)

ขอข้ามเรื่องตั๋วเครื่องบินไปเลยเนอะ เพราะว่ามีหลายสายการบินมากที่บินไทย- NZ เอาเป็นว่าใครชอบบริษัทไหนก็เลือกสายการบินนั้นก้อแล้วกันค่ะ

ร่ายยาวมาเรื่อย คราวนี้มาเรื่องเที่ยวกันดีกว่าค่ะ (ยัยนี่ พูดเยอะจริง!)

ขอขอบคุณภาพแผนที่ จาก Google ที่อำนวยความสะดวกในการไปเที่ยวและ อัพลง Blog นี้ค่ะ
อันดับแรก เรามาเริ่มที่แผนที่ของเกาะใต้ที่เราจะใช้ในทริปนี้กันก่อนค่ะ
  1. เส้นแดงๆ หรือเส้นเหลืองๆ อันนี้คือ MAIN ROAD ที่ไก่อ่อนอย่างเราสามารถขับขี่รถยนต์ที่เช่าไปไหนมาไหนได้โดยรอดปลอดภัยค่ะ
  2. จุดเหลืองๆ และมีชื่อเมือง ให้ตั้งเป้าไว้เลยค่ะว่าต้องมีอะไรให้เที่ยว ให้ดู ให้ทำ ^__^
  3. เขียวๆ ด้านบนเป็น National Park เหมาะมากสำหรับผู้ชอบการเดินป่า ยังไง๊ ยังไงก็ปลอดภัยค่ะ
อันดับต่อมา แอมก็ขอกล่าวถึงการเช่ารถนิดนึง บริษัทรถเช่าที่นี่มีเยอะมากค่ะ ไม่ว่าจะเป็น International แบบพวก AVIS, Budget, Hertz หรือ จะเป็นแบบ Local ก็มีค่ะ หลากหลายตามโปรโมชั่น และขนาดของรถค่ะ ทริปนี้ แอมเลือกใช้บริการ AVIS และเช่า TOYATA CAMRY Hybrid + GPS (Navigator)

นั่งสบายมาก แถมประหยัดน้ำมันด้วย เมื่อวิ่งในความเร็วตามกฏหมาย NZ กำหนด คือไม่เกิน 100km/hour ค่ะ

จริงๆ แล้ว เกาะใต้นิวซีแลนด์ ไม่จำเป็นต้องเช่า Navigator ก็ได้ (สำหรับคนที่มีเวลามากพอ และต้องการความชิว เพราะว่าทริปแรกแอมไปกะเพื่อนสาว กางแผนที่เอาเลยอย่างเดียว มันส์ไปอีกแบบ) แต่ทริปนี้แอมมีเวลาไม่มากนัก ขอเอาแบบ Direct to Go ก็แล้วกันค่ะ

ในเรื่องขอที่พัก ประทศนี้มีทั้งแบบโรงแรม 5 ดาว, Motel, Self Service Apartment, BB, Backpacker หรือแม้กระทั่งลานจอด Campervan ที่สามารถนอนในรถ หรือลงมากางเต้นท์ก็ได้ค่ะ ส่วนที่พักแอมนั้นจะขอเล่าในแต่ละเมืองก็แล้วกันเนอะ

จะเริ่มเล่าแล้วนะ อ่ะ กลับไปดูที่แผนที่ก่อน เริ่มจากขวาบนลงล่าง วนมาทางซ้ายนะคะ แอมขอเริ่มที่ Christchurch ก่อนละกันค่ะ

Christchurch (CHC) แทบจะเรียกว่าเป็นเมืองหลวงของเกาะใต้ด้วยซ้ำไป ปัจจุบัน CHC แผ่นดินไหว ตึกราบ้านช่อง สถาปัตยกรรมพังแทบจะทั้งหมด  แต่ยังไงสนามบิน CHC ก็ยังเปิดให้บริการอยู่ ซึ่งเรียกได้ว่า เรามาลงสนามบินที่นี่แล้วเช่ารถ และต้องรีบจรรีไปก็แล้วกันค่ะ  ฉะนั้น แอมจะขอลงแค่รูปในที่ๆไปมาละกันนะคะ

Catheral Square on Jan 2011

TRAM - Lovely Transportation in CHC

Avon River + Punting Man in Botanic Garden @CHC (So Romantic Scence)
ขอลงภาพอดีต CHC ไว้แค่นี้ดีกว่า เห็นแล้วน้ำตาจะไหลค่ะ


ภาพ Catheral Church จาก NZ Herald หลังจากแผ่นดินไหว (26 FEB 2011)

อ่ะ มาข้ามๆ CHC ไปค่ะ ต่อมาขอแนะนำเมืองท่องเที่ยวใกล้ CHC คือ AKAROA

AKAROA สามารถเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวจาก CHC ไป AKAROA ประมาณ 1ชม.ครึ่งค่ะ AKAROA เป็นแหลมที่ยื่นออกไปจาก CHC เป็นเมืองเล็กๆ ต้องขับลัดเลาะภูเขาไปค่ะ ขอ CONFIRMว่า AKAROA ไม่โดนผลกระทบจาก แผ่นดินไหวที่ CHC ค่ะ ตอนเขียนบล็อกนี้เข้าไปเช็คให้ใน Akaroa.com ฉะนั้น AKAROA is the Best Destination Near CHC ค่ะ


วิวมุมสูงทั้งเมืองแบบนี้เจอได้ในถนนเข้า-ออกของเมืองค่ะ


AKAROA เป็นเมืองเล็กๆ ที่มีกลิ่นอายแบบฝรั่งเศส และ อังกฤษรวมตัวกัน มีทะเลสาบสีฟ้าเย็นเจี๊ยบ และมีหอยแมลงภู่ที่สามารถจับเป็น (ในเขตให้จับเท่านั้น) และยังมีวิวเส้นทางขับรถธรรมชาติที่สวยมากเส้นหนึ่งในเกาะใต้ (ชื่อเมืองอ่านว่า อะ-คา-รัว เป็นภาษาเมารีค่ะ แปลว่า Long Harbour)

กิจกรรมที่เราทำใน AKAROA ก็เป็นการเดินชมเมือง เดินตลาดนัดงาน HAND CRAFT พายเรือคายัค ว่ายน้ำกับโลมา (แต่แอมทำไม่ไหวหรอกค่ะ ไม่รู้ว่าน้ำจะเย็นไปไหนเนี่ยะ) จับหอยแมลงภู่ที่เค้าว่าใหญ่ที่สุดในโลก (แต่ไม่ได้จับ) เพราะว่าขี้เกียจเดินลงเขา เลยเปลี่ยนไปย่าง BBQ ในที่พักแทน อิอิ และ กิจกรรมที่ แอม CRAZY  ก็คือการส่งโปสการ์ดกลับบ้าน ได้รับมั่งไม่ได้รับมั่ง แต่ไม่เป็นไร เพราะความสุขสุดๆ คือ ตอนนั่งเขียนโปสการ์ดในที่พักและมองวิวออกไปข้างนอก (ปรีเปรมมาก)

นี่คือตึกราบ้านช่องกลางเมืองนะคะ

กิจกรรมภายเรือ คายัค ตอนนั้นที่ไปเจอเวบ Deal in NZ กำลัง SALE อ่ะค่ะ ตกคนละ NZD$12 เอง

ที่พักใน AKAROA มีหลายที่ ส่วนมากเป็น Backpacker แต่มา AKAROA ทั้งทีแอมเลยเลือกให้มันพิสดารไปเลย ต้องขับรถออกจากเมือง ขึ้นเนินเขาไปอีกเกือบ 7กิโล ซึ่งแน่นอนว่าการตัดสินใจในครั้งนี้คุ้มค่ากับการขับรถขึ้นเขามาก และที่นั่นก็คือ ONUKU FARM HOSTEL รับเงินสดเท่านั้นค่ะ NZD$33

คำโฆษณาที่ประตูทางเข้าฟาร์ม เค้าไม่เคลมเกินตัวนะคะ แถมยังเคลมขาดอีกต่างหาก
เป็นแอมจะเพิ่มให้อีกว่า and another Million Dollars Scenic View
วิวนี้สามารถเห็นได้จาก ONUKU FARM ค่ะ
ห้องนั่งเล่นใน ฟาร์มเฮ้าส์
เป็นอย่างไรบ้างคะ AKAROA Near CHC สวยมากๆ ใช่ไหมคะ แอบเม้าส์หน่อย AKAROA เนี่ยะ บริษัททัวร์ส่วนใหญ่ไม่ค่อยพามาลง อาจจะติดปัญหาที่เส้นทางต้องย้อนไปมา เพราะไม่สามารถทะลุไปเมืองอื่นๆ ได้ แต่หากว่ามากันเองแล้วเนี่ยะ AKAROA is a beautiful Destination in NZ เลยค่ะ

รับประทานอาหารเช้ากันเรียบร้อยแล้ว ออกเดินทางมุ่งหน้าเมืองถัดไป แอมเลือกที่จะไป LAKE TEKAPO ถ้าดูจากแผนที่ก็จะอยู่ตรงกลางของเกาะ ที่มีจุดเหลือง 3 จุดผ่านเมืองที่ชื่อว่า Fairlie ไปค่ะ

พื้นหลังของเลคเทคาโป เป็น Mount Cook. (ชื่ออาจคุ้นหูในวิชาสังคม ตอนเรียนเรื่องโลกของเราในหมวดเทือกเขาเอลป์)
Lake Tekapo เป็นเมืองเล็กมาก แค่ถนนตัดผ่าน แต่มีวิวที่สวยมากตั้งอยู่กลางเกาะใต้ เมืองนี้มีจุดท่องเที่ยวไม่มาก แต่มีวิวที่สวยมาก จึงทำให้นักท่องเที่ยว รวมทั้งแอมด้วยต้องขออยู่ที่นี่ซักคืน สถานที่ต้องไป (เพราะว่ามีไม่กี่ที่ คือ The Church of the Good Shepherd และ Collie Dog statue ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน เดินไปได้ค่ะ) เวลานอกเหนือจากนี้ถ้าไม่ขี้เกียจมากนักขับรถไปประมาณ 15 นาทีจะมีฟาร์มขายปลา SALMON อยู่ซ้ายมือ ก็ไปซื้อกลับมาเพื่อทำ STEAK ปลาแซลมอนในตอนเย็นก็ได้ค่ะ

The Church of Good Shepherd เป็นโบสถ์ที่สร้างเพื่อคนที่รักที่ได้ตายจากไป

อนุสรณ์น้องหมา Collie ผู้กล้าหาญ อยากรู้ประวัติเต็มๆ ต้องไปอ่านตรงแท่นหินสี่เหลี่ยมดำๆ ด้านล่างค่ะ

ต่อมาในเรื่องที่พัก ที่นี่ก็มี MOTEL ดีดีหลายแห่ง แต่ว่าทริปนี้แอมขอนอนแบบ BB หรือไม่ก็ Backpacker ไปเลยค่ะ สำหรับค่ำคึนนี้ แอมเลือก YHA Lake Tekapo ค่ะ ห้องพักที่นี่ต้องจองล่วงหน้านะคะ เพราะว่า Hit มาก ไม่เช่นนั้นต้องไปนอนดูวิวถนน ฮ่าๆๆๆๆ

ดูภายนอกก็ลูกทุ่งหน้าดู แต่ลองเลื่อนลงมาดูรูปข้างล่างซิ จะอึ้งกิมกี่ ^__^
เป็นไงล่ะ เนี่ยะ วิวห้องนั่งเล่นนะคะดูวิว ดูดาว ชมเดือน เขียน PC ไม่เบื่อเล้ย ให้ตายเหอะ
คืนนี้เค้านอนแบบนี้ ตื่นเต้นไปอีกแบบ นอนรวมกันหลายๆ คน
(เก็บของมีค่าไว้ในรถให้เรียบร้อยนะตัวเอง ฝรั่งก็มีคำว่า Steal นะคะ)
ส่วนมื้อค่ำวันนี้ก็ SASHIMI SALMON + HUNTAWAY CHADONAY นอนถูกเลยกินหรูซะเลย 555

ว่ากันต่อในเมืองถัดมาไม่ไกลมากนัก แอมจะพาทุกท่านไปเยือนสถานที่ตามหนังสือเรียนวิชาสังคม เรื่องโลกของเรา ในสถานที่ ที่เรียกว่า Mt.Cook

มุมแบบนี้ได้มาจากจุดชมวิวข้างทางค่ะ


Mt.Cook ไม่ไกลจาก Lake Tekapo มากนัก ขับรถเข้าไปเกือบสุดถนน ขอแนะนำว่าให้จองที่พักไว้ก่อนนะคะ + ถ้าจะทำอาหารเองให้ซื้อเสบียงจาก LAKE TEKAPO เข้าไปเลย เพราะในนั้นหาของกินยาก+แพงมาก ย้ำนะคะ หายาก+แพงมาก หรือไม่อย่างนั้นก็ซื้อเป็น Combo กะโรงแรมไปเลยค่ะ 

เส้นทางจาก LAKE TEKAPO ก็สวยไม่แพ้กัน สำหรับท่านที่จองที่พักแล้ว ก็ชิวๆ เลยค่ะ ขับรถไป จอดไปถ่ายรูปไป เพราะว่าวิวสวยมาก สำหรับสาวนักกระโดดถ่ายภาพกลางถนน แบบว่าข้าบินได้ เอาเลยจัดหนัก เพราะว่าที่นี่โดดแล้วดูดีมีวิว MT.Cook ด้านหลัง สวยกว่าโดดกลางหาดทรายบ้านเรา และหลังจากกระโดดไม่ร้อนด้วย เพราะว่าอากาศเย็นๆ มันส์ค่ะ

ภาพนี้ต้องขอขอบคุณ Google เพราะว่าภาพของแอมมีแต่หมูพยายามบิน
ในเรื่องที่พักที่นี่ก็หลากหลายมีตั้งแต่หลัก 10 ไปจนถึงหลักร้อย อาหารการกินทางโรงแรมก็มีจำหน่ายค่ะ แต่ราคาจะสูงกว่าที่อื่นทางที่ดีชาว BACKPACKER เตรียมเสบียงไปเองก็จะประหยัดต้นทุนการท่องเที่ยวได้บานเลยค่ะ
ภาพห้องพักใน Mt.Cook Backpacker Lodge แบบ Triple Room
**แนะนำมาแล้วครึ่งทาง** ตอนนี้ขอตัวเก็บของกลับบ้านก่อน (นี่แอมเอาเวลางานมาอัพ -*-) แล้วเดี๋ยวจะมาอัพต่อค่ะ HAPPY EVENING ค่ะ

See you Soon
Ammy Wu